แหล่งรวม สมุนไพรดีๆ ของไทย และเทศ

Phyllanthus emblica

ใช้รับประทานเพื่อบรรเทาหวัด แก้ไอ และละลายเสมหะได้ มีแทนนินซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านออกซิเดชัน ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ยับยั้งการสร้างเมลานิน และสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) .

Cupana

ช่วยชำระล้างมลพิษในระบบทางเดินหายใจ ให้พลังงาน บำรุงสมอง ทำให้สดชื่น.

Horny Goat Weed

วัชพืชแพะเงี่ยน เป็นสมุนไพร ใบใช้ทำยา มีมากถึง 15 สายพันธุ์ แพะมีเขา เป็นที่รู้จักกันเป็น "หยินหยาง huo" ในยาจีน.

ยินเซียม

รากฝอยของโสมหยิ่งเซียม ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดี ช่วยบำรุงสมอง ลดความเครียด ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง.

Carob

ฤทธิ์ต้านมะเร็งและป้องกันการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเครื่องสำอางยาและอาหารสัตว์.

G. extensum

หนานเฉาเหว่ย

หรือหนานเฝยเฉ่า (Gymnanthemum extensum ) เป็นสมุนไพรจีน ใบมีรสขมจัดใช้ต้มกับน้ำ เป็นไม้พุ่มขนาด 6 - 8 เมตร ต้นไม้ขนาดเล็กที่พบตามธรรมชาติ ที่ระดับ 1,200 เมตร (3,900 ฟุต) ถึง 2,100 เมตร (6,900 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเลในป่าเปิด หรือผาในเนินหุบเขา ทางตอนใต้ของประเทศจีน (กุ้ยโจว - ยูนนาน) เทือกเขาหิมาลัย (สิกขิม ) เนปาล ภูฏาน และภูเขารัฐฉาน ในพม่า ได้รับการปลูกในประเทศไทย ว่าเป็นต้นไม้ในสวนที่มีสรรพคุณทางยา ของใบ และดอกมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปรี ปลายแหลม โคนป้านหรือเกือบมน ใบอ่อนและใบแก่มีรสขมจัด ตามที่กล่าวข้างต้น ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ดอกเป็นสีขาว “ผล” ทรงกลม มีเมล็ด

หนานเฝยเฉ่า

มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน ถูกนำเข้ามาปลูก และขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานหลายปีแล้ว นิยมปลูกเฉพาะตามสวนสมุนไพรจีน และสวนสมุนไพรไทยเพื่อใช้ประโยชน์เป็นยา โดยใบสดของ “หนานเฉาเหว่ย” มีรสขม เมื่อเคี้ยวกินใบสดตอนแรกจะรสขม แต่พอกินไปได้สักพักจะรู้สึกว่ามีรสหวาน และชุ่มเพดานโคนลิ้น รวมถึงในลำคอ ซึ่งใบสดดังกล่าวตำรายาจีนระบุว่า สามารถช่วยลดเบาหวาน แก้อาการของโรคเกาต์ และลดความดันโลหิตสูงได้ วิธีใช้ หนานเฝยเฉ่า นำใบสด 5-7 ใบ ต้มกับน้ำจนเดือด แล้วดื่มครั้งละ 1 ถ้วยกาแฟ วันละ 2 เวลา ก่อนอาหารเช้าเย็น จะสังเกตได้ว่าประมาณ 1 อาทิตย์ อาการที่เป็นจะดีขึ้น จากนั้นต้มดื่มบ้าง หยุดบ้าง เพื่อควบคุมอาการ

หรือบรรเทา ผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือปวดตามข้อ เพราะทำงานหนักต้องเดิน หรือยืนเป็นเวลานานๆ หากเพื่อบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากกระดูกเสื่อม ให้เอาใบสดของ “หนานเฉาเหว่ย” 1-2 ใบ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วเคี้ยวกินได้เลย วันละครั้ง ประ– มาณ 1 อาทิตย์ อาการปวดเมื่อยจะดีขึ้น จากนั้นเคี้ยวกินบ้างหยุดบ้างเพื่อควบคุมอาการเช่นเดียวกัน

สรรพคุณ หนานเฝยเฉ่า ใบหนานเฉาเหว่ย รสขมจัด ใช้ต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยลดเบาหวาน แก้อาการของโรคเกาต์และลดความดันโลหิตสูง ชาวกะเหรี่ยง จะใช้เป็นยาแก้หวัด เรียก ยาขม ล้านนาใช้รักษาโรคเรื้อรัง ที่เรียกว่า โรคสาน หรือโรคที่มีก้อนเนื้อผิดปกติ ฝีต่างๆ และโรคขางคือ แผลเปื่อยเรื้อรังตามอวัยวะต่างๆ แอฟริกา เขาใช้กินเป็นผัก และใช้รักษาโรคมาเลเรีย อเมริกา ก็ทำขายเป็นยาเพิ่มภูมิคุ้มกัน เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม เบาหวาน และต่อมลูกหมาก รวมทั้งควบคุมน้ำตาล

มองหา ซื้อหนานเฉาเหว่ย:

คุณสมบัติ สรรพคุณทั่วไป

☑ใบอุดมไปด้วยโปรตีนวิตามินและเกลือแร่
☑มีβ-Carotene ควบคุมการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศหญิงช่วยให้แข็งแรง อายุยืนยาว ☑ช่วยรักษาต้านติดเชื้อรา และแบคทีเรีย
☑ช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น กลาก
☑สามารถช่วยลด #เบาหวาน
☑ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำนมในมารดาให้นมบุตร
☑แก้ไอ
☑ช่วยรักษาอาการผื่นคัน
☑ช่วย #ขับล้างสารพิษในร่างกาย
☑ช่วยรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี
☑ช่วย #บำรุงและฟื้นฟู ตับ และ ไต

ใบแห้ง : ลักษณะจำเพาะ

  • ตากแห้งในที่ร่ม ห้องปรอดเชื้อ รักษาคุณค่าทางสรรพคุณ แห้งสนิท ความชื้นต่ำ
  • ใช้ชงในน้ำร้อนดื่ม.
  • ☑ช่วยลดความอ้วน
    ☑ช่วยแก้อาการปวดฟัน และอาการเหงือกอักเสบ
    ☑ใช้ผลิตยาป้องกันหอบหืด
    ☑ช่วยการ #สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
    ☑ช่วย #ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง

    บรรจุซอง

  • บรรจุขนาด 200 กรัม / ซอง .

  • ราคา

  • ราคาจำหน่าย *** บาท / ซอง ( มีจำหน่ายเร็วๆนี้ )
  • สั่งซื้อ คลิก ติดต่อเรา...

    Review


    Tag : ใบแห้ง หนานเฉาเหว่ย,หนานเฉาเหว่ย อันตรายไหม,หนานเฉาเหว่ย ตากแห้ง,โทษของใบหนานเฉาเหว่ย,หนานเฉาเหว่ย มะเร็ง,หนานเฉาเหว่ย pantip,หนานเฉาเหว่ย แคปซูล,งานวิจัยหนานเฉาเหว่ย,หนานเฉาเหว่ย ชื่อวิทยาศาสตร์,หนานเฉาเหว่ย อภัยภูเบศร,หนานเฉาเหว่ย มหิดล,เบาหวาน ,ความดัน ,มะเร็ง ,เก๊าท์ ,ภูมิคุ้มกัน ,หนานเฉาเหว่ย,หนานเฝยเฉ่า ,หนานเฟยซู่ ,ป่าเฮ่อหมอง,บำรุงตับ,บำรุงไต,บำรุงหัวใจ,ป่าช้าเหงา,บิสมิลลาฮ
    Rerated : กรีนภาระตะ -เขียวอินเดีย : ดอก อัญชัน

    Gardenia obtusifolia Roxb

    คำมอกน้อย

    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardenia sootepensis Hutch
    วงศ์ RUBIACEAE
    ชื่ออื่น : กระบอก, ไข่เน่า, คมขวาน, พญาผ่าด้าม, พุดนา, ฝรั่งโคก, มอก, สีดาโคก ลักษณะ ต้นคำมอกน้อย -คำมอกหลวง
    เป็นไม้ยืนต้น ขนาดปานกลาง ปลูกเป็นไม้ปะดับโชว์พุ่ม สูงราว 2-10 เมคร ลำต้นคดงอ ทรงพุ่มโปร่ง ผลัดใบ ยอดอ่อนมีชันเหนียว ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามเป็นคู่ สลับตั้งฉาก รูปไข่กลับหรือ รูปไข่กลับแกมรูปขอบขนาน กว้าง 2.5-5ซม.ยาว4.5-10ซม.ปลายมนหรือกลมโคนรูปลิ่มขอบเรียบแผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ใบอ่อนมีขนประปราย ใบแก่ผิวหยาบและเกลี้ยงทั้งสองด้าน เส้นแขนงใบข้างละ 10-15 เส้น ก้านใบสั้นมากหรือไม่มีก้านใบ หูใบระหว่างก้านใบเชื่อมติดกับโคนก้าน ใบร่วงง่าย

    คำมอกน้อย - หลวง

    เป็นดอกเดี่ยว ออกที่ปลายกิ่ง ดอกคำมอกน้อยมีกลิ่นหอม ก้านดอกสั้นกลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูประฆัง มีขนประปราย ปลายแยกเป็น 5 แฉกสั้นมาก กลีบดอกสีขาวเปลี่ยนเป็นดอกสีเหลือง โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉก รูปขอบขนานแกมรูปใบหอกกลับปลายมน เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดอยู่บริเวณคอหลอดกลีบดอก ไม่โผล่พ้นปากหลอดอับเรณูรูปขอบขนาน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบมีขน มี 1 ช่อง มีออวุลจำนวนมาก ก้านเกสรเพศเมียหนา ยอดเกสรเพศเมียเป็น 2 แฉก รูปกระบองโผล่พ้นหลอดกลีบดอก

    ผลคำมอกหลวง-น้อย

    ผลเป็นผลสดมีเนื้อ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงรี รูปไข่ รูปกระสวยแกมรูปไข่กลับ หรือเป็นรูปขอบขนาน ผลมีติ่งที่ปลายและสันตื้น ๆ ประมาณ 5-6 สัน ผลเป็นสีเขียวเข้ม เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ ที่ผิวมีปุ่มหูดกับช่องอากาศ ผลมีขนาดกว้างประมาณ 1.8-2.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 2.2-4 เซนติเมตร ภายในผลมีเนื้อและเมล็ดจำนวนมาก การกระจายพันธุ์ พบได้ตั้งแต่ประเทศพม่า ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และ คาบสมุทรมลายู สำหรับในประเทศไทยพบได้ทุกภาค โดยนิเวศวิทยาของคำมอกน้อยคือ จะพบคำมอกน้อยได้ทั่วไปตามป่าเต็งรัง ความสูงจากระดับน้ำทะเล 100-300 ม. คำมอกน้อย ออกดอก ระหว่าง เดือน มกราคม-มีนาคม และเป็นผล ระหว่าง เดือน มีนาคม- สิงหาคม
    สรรพคุณของคำมอกหลวง
    แก่นนำไปใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคเบาหวาน (ผลคำมอกด้านในมีเมล็ดเล็ก๙ึ่งให้สรรพคุณทางยา)
    เนื้อไม้ใช้เข้ายากับโมกเตี้ยและสามพันเตี้ย ใช้ต้มกับน้ำเป็นยาดื่มแก้บิดและถ่ายเป็นมูกเลือด (เนื้อไม้
    แก่นคำมอกหลวงใช้ผสมกับแก่นมะพอก นำมาต้มรวมกันให้หญิงอยู่ไฟใช้อาบและสระผม
    เมล็ดคำมอกหลวงนำมาต้มเคี่ยวกับน้ำใช้ผสมเป็นยาฆ่าเหา
    เมล็ดด้านในของผลคำมอกเคี้ยวกินสด ( ยังไม่ได้รับการวิจัยยืนยัน ว่าเป็นยาเสริมสมรรภาพทางเพศ )
    ประโยชน์ของคำมอกหลวง
    ต้นคำมอกหลวงเป็นไม้ทนแล้ง เหมาะที่จะปลูกเพื่อให้ร่มเงาได้ อีกทั้งยังใช้ปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี เพราะดอกมีสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอมมาก โดยจะออกดอกพร้อมกันทั้งต้น และดอกจะบานประมาณ 2-3 วัน ดอกสามารถส่งกลิ่นหอมได้ยาวนาน แม้ดอกร่วงแล้วแต่ก็ยังส่งกลิ่นหอม
    ดอกใช้สำหรับถวายพระ (คนเมือง)
    สมัยก่อนจะนิยมใช้ผลนำไปสระผม
    เนื้อในเมล็ดแก่ใช้รับประทานได้ (ชาวม้ง)
    ยางเหนียวจากยอดสามารถนำมาขยี้จนเป็นก้อน ๆ แล้วนำไปใส่ในร่องระหว่างโคนมีดกับด้าม จะช่วยทำให้มีดแน่นติดกับด้ามมีดมากขึ้น
    เนื้อไม้สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างและงานแกะสลักได้
    Tag :คํามอกน้อย,คำมอกหลวง ผลัดใบ,ต้นคํามอกหลวง ราคา,ต้นคํามอกหลวง pantip,วิธี เพาะ เมล็ด คำ ม อก หลวง,พุดภูเก็ต คํามอกหลวง,วิธี ปลูก คำ ม อก หลวง,ต้น คำ พม่า, กระบอก, ไข่เน่า, คมขวาน, พญาผ่าด้าม, พุดนา, ฝรั่งโคก, มอก, สีดาโคก,ผาด้าม
    Rerated : ตำรับยาแผนโบราณ

    Ginger

    คนไทยวันนี้เปลี่ยนไปเยอะจากที่ผ่านมา 5-7 ปี ย้อนไปแต่ครั้งที่เศษฐกิจค่อนข้างดี กฎระเบียบทั่วไป ก็ไม่ตึงเหมือนสมัยนี้ เมื่อก่อนตอนเย็นเรากลับจากที่ทำงานจะเห็นร้านขายของมึนเมา แทบทุกร้านมีผู้คนใช้บริการกันมาก จะด้วยเหตุนำเสนอจากน้องสาว น้องแก่ หรือของแกล้มอร่อยก็ตาม ข้างทางหรือร้านใหญ่ ร้านเล็ก เป็นที่โปรดปรานแวะเม้าท์มอยกันเป็นกลุ่มๆ หยุคนี้สมัยนี้กฎระเบียบตึง หลายร้านก็แทบอยูไม่ได้ ท้ายที่สุดก็หยุดไป ที่ผมเขียนมานี้ ไม่ใช้ผมส่งเสริมนะครับ ผมนะเลิกเหล้าเด็ดขาด มากกว่า 3 ปีแล้ว ด้วยเหตุที่ว่านิสัยผมมันพูดไม่หยุด ที่สุดความลับไม่ลับ มันไหลออกมาหมด (สรุปคือพูดเพ้อเจ้อนั่นหละ ) จริงส่วนหนึ่งครับ ก็เป็นไปตามเศษฐกิจบ้านเมืองครับ ของไม่จำเป็นประโยชน์น้อย อีกอย่างของพวกนั้นราคาไม่เหมือนเดิมเพิ่มตามภาษี เรารายได้น้อยก็เลิกเป็นเหตุผลครับ แล้วหันมาดื่มของที่ดีต่อสุขภาพแทน และราคาถูก หรือไม่ก็ไม่ต้องจ่ายสักบาทก็ได้หาได้ตามครัวแม่บ้าน หรือสวนหลังบ้าน ผมนะทึ่งกับความพิเศษ ของเจ้าสมุนไพรตัวนี้มากๆเลยครับ พืชสมุนไพรใกล้บ้านที่รู้จักกัน ขิง ส่วนตัวผมชอบดื่มน้ำขิงร้อนๆ ด้วยรสชาดที่เผ็ดร้อน ดื่มเหมือนจิบกาแฟ จะดื่มแบบโบกบากไม่ได้ครับ จะทำให้สะอึกเอา ดื่มตอนเช้าก่อนกาแฟ หรือก่อนนอนก็ดีครับ ดีท็อกดีนัก ไหลผ่านลำคอรู้เลยมันวิ่งไปไหน ผมเป็นคนที่ไม่ชอบน้ำตาล น้ำขิงจัดจ้านร้อนจัดจึงเหมาะสมดี ที่สำคัญมันขับปัสสาวะดีเหลือเกิน ไม่แพ้กาแฟที่มีคุณสมบัตินี้ด้วย ส่วนอื่นๆที่เป็นทางการอ่านตามด้านล่างเลยครับ.
    ส่วนท่านไดโปรดขิงดอง ก็เน้นกำวิธีดองด้วยนะครับ ที่นะนำดองขิงในน้ำส้มสายชูหมักจากพืชนะครับ ดีต่อร่างกายกว่าแบบกลั่น หรือนิยมแบบสดๆ ก็ตามสะดวกครับ

    ขิง

    ขิงชอบขึ้นในที่ชื้นมีการระบายน้ำดี เหง้าใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีนวลมีกลิ่นหอมเฉพาะ แทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นเป็นกอ ขิงมีอยู่หลายชื่อ ตามแต่ละถิ่น ได้แก่ ขิงแกลง, ขิงแดง (จันทบุรี), ขิงเผือก (เชียงใหม่), สะเอ (แม่ฮ่องสอน)[1]), ขิงบ้าน, ขิงแครง, ขิงป่า, ขิงเขา, ขิงดอกเดียว (ภาคกลาง), เกีย (จีนแต้จิ๋ว)

    ขิง สรรพคุณ

    ขิงยังมีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย คือ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินเอและอีกมากมาย ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น ในทางยานิยมใช้ขิงแก่ เพราะขิงยิ่งแก่จะยิ่งเผ็ดร้อนและมีใยอาหารมาก นำเหง้าสดย่างไฟให้สุก ตำผสมกับน้ำปูนใสคั้นเอาแต่น้ำดื่ม หรือนำเหง้าสดหมกไฟรับประทานเมื่อมีอาการเบื่ออาหาร
  • เหง้าขิง : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสด ตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ [2]
  • ต้นขิง : รสเผ็ดร้อน ขับลมให้ผายเรอ แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
  • ใบขิง : รสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
  • ดอกขิง : รสเผ็ดร้อน แก้โรคประสาทซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว ช่วยย่อยอาหาร แก้ขัดปัสสาวะ
  • รากขิง : รสหวานเผ็ดร้อนขม แก้แน่น เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แก้บิด
  • ผลขิง : รสหวานเผ็ด บำรุงน้ำนม แก้ไข้ แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ(วัด-ถะ-นะ)
  • แก่นขิง : ฝนทำยาแก้คัน
  • สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ ในขิง
    ในเหง้าขิงมี น้ำมันหอมระเหยอยู่ประมาณ 1 - 3 % ขึ้นอยู่กับวิธีปลูกและช่วงการเก็บรักษา ในน้ำมันประกอบด้วยสารเคมี ที่สำคัญคือ ซิงจิเบอรีน (Zingiberene) , ซิงจิเบอรอล (Zingiberol) , ไบซาโบลี (bisabolene) และแคมฟีน (camphene) มีน้ำมัน (oleo - resin) ในปริมาณสูง เป็นส่วนที่ทำให้ขิงมีกลิ่นฉุน และมีรสเผ็ด ส่วนประกอบสำคัญ ในน้ำมันซัน ได้แก่ จินเจอรอล (gingerol) , โวกาออล (shogaol) , ซิงเจอโรน (zingerine) มีคุณสมบัติเป็นยากัดบูด กันหืน ใช้ใส่ในน้ำมันหรือไขมัน เพื่อป้องกันการบูดหืน สารที่ทำให้ขิงมีคุณสมบัติเป็นยากันบูด กันหืนได้คือ สารจำพวกฟีนนอลิค
    อ่านเพิ่มเติม... ขิง

    Andrographis paniculata

    Andrographis paniculata

    เชื้อดื้อยา

    ระยะนี้เป็นรอยต่อของฤดูกาล จากร้อนแห้งเปลี่ยนเป็นชื้นมากขึ้น ฝนตกมากขึ้นตามฤดูของมัน โรคต่างๆก็แพร่กระจายมากขึ้น เกิดการป๋วยไม่สบาย ไม่ว่าจะตัวร้อน เป็นไข้หวัด เจ็บคอๆอักเสบ ท่านก็ต้องพึ่งหมอ ตามคลินิก หรือไม่ก็โรคพยาบาล หรือซื้อจากร้านขายยาไปรักษาเองโดยคำแนะนำของเจ้าของร้านขายยา การใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่เหมาะสมกับโรค หรือใช้ยาปฏิชีวนะนานๆ หรือพร่ำเพรื่อ ยังก่อให้เกิดผลเสียอื่นๆตามมา ท่านทราบไหมครับว่า โรงบาลตอนนี้เขาไม่จ่ายยาแก้เอักเสพ แผนปัจจุบันจำพวก “ยาปฏิชีวนะ” จะให้ใช้ก็ที่จำเป็น ในเรื่องที่เกิดอุบัติเหตุ ที่มีแผลอักเสบ หรือเจ็บปวดมาก เขาถึงให้ หากท่านเจ็บคอด้วยเชื้อโรคหรือป๋วยทั่วไป เขาจะจ่ายเป็นสมุนไพรแทน ด้วยเหตุที่ว่าการกินยา “ยาปฏิชีวนะ” ยาแก้อักเสบ มันทำให้โรคเกิดการดื้อยาง่าย เช่น..
  • เชื้อโรคมีการปรับตัวและพัฒนาตัวเองให้มีชีวิตรอดได้สูง
  • ยาจะไปฆ่าแบคทีเรียเหล่านี้ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายเสียไป
  • ยาปฏิชีวนะทุกชนิดมีผลข้างเคียงเสมอ มากหรือน้อยขึ้นกับชนิด ขนาด และวิธีกินยา
  • รบกวนการทำงานของยากลุ่มอื่น (ปฏิกิริยาระหว่างยา)
  • เมื่อเชื้อเกิดการดื้อยา ท่านก็ย้ายจากกลุ่มที่ดี มีความเสี่ยงน้อย ไปสู่กลุ่มที่มีอาการของโรคดื้อยา ท่านก็พบกับความเสี่ยงมากแล้วละ ผลรายงานว่า (คนไทยตายเพราะ'เชื้อดื้อยา'ปีละ2หมื่น เหตุ'ซื้อกินเอง-ใช้ผิดประเภท'อ่านต่อ.. blog ) แล้วจะทำอย่างไร เมื่อเกิดเป็นไข้ และคออักเสบ หรือโรคที่เกิดการติดเชื้ออื่นๆ ..ไม่ยากครับ ท่านก็หันกลับมาใช้สมุนไพรแทนชิครับ.

    ฟ้าทะลายโจร

    ฟ้าทะลายโจร (ชื่อวิทยาศาสตร์: Andrographis paniculata ( Burm.f. ) Wall ex Nees.) เป็นพืชล้มลุกฤดูเดียว ในตระกูล Acanthaceae มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและศรีลังกา โดยในตำรายาโบราณของไทย จัดให้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหามารับประทานแก้โรคได้เอง

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

    ลำต้นเป็นเหลี่ยมสี่มุม<ป้าน> ใบเป็นใบเดี่ยวรูปร่างเรียวยาวสีเขียวเข้มเป็นมัน ปลายแหลม กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกช่อออกที่ปลายกิ่งและซอกใบ มีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาว ด้านในสีม่วง โคนกลีบติดกัน กลีบดอกด้านบนมี 3 หยักด้านล่างมี 2 หยัก ผลเป็นฝักเมื่อผลแก่จะมีสีน้ำตาล ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลอ่อนจำนวนมาก
    สรรพคุณาฟ้าทะลาย
    ใช้แบบสด หรือแห้งเป็นผง แล้วแต่สดวก ทุกส่วนของต้น ใบ ดอก ผล ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณแก้ไข้ทั่วๆ ไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ระงับอาการอักเสบ ไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ รักษาโรคผิวหนัง ฝี แก้ติดเชื้อ ที่ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ เป็นยาขมเจริญอาหาร มีฤทธิ์ระงับการติดเชื้อ หรือระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ ซึ่งควรใช้ให้ถูกต้องด้วยจะได้ผลดีมาก
    Tag : ฟ้าทะลายโจร,ฟ้าทะลาย แคปซูล,ฟ้าทะลายรักษาหมา
    Rerated : อัญชัน

    Clitoria ternatea

    ดอก อัญชัน

    อัญชัน พืชสมุนไพรเถาไม้เลื่อยพื้นบ้าน พบเห็นได้ง่ายตามบ้าน คุณประโยชน์มีมากครับ ตามที่กล่าวถึงทั่วไป ผมเองคนหนึ่งครับที่ปลูกไว้หลังบ้าน แรกรู้สึกว่ามันรกของไม้เถาชนิดอื่นๆ ที่ไม่พึงประสงค์ เลยใช้ต้นอัญชันนี้แหละครับแทนที่ ทำค้างให้ขึ้นคลุมดิน เหตุที่ขยายปลูกเพิ่ม เพื่อให้คลุมหญ้าอื่นไม่ให้ขึ้นมา รวมถึงสุขภาพส่วนตัวครับ ผมดื่มกาแฟมานาน ปัญหาที่เกิดกับตัวเองคือ มีกลดหรือลมในกระเพาะ อีกทั้งดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว ที่สุดก็หันมาดื่มน้ำดอกอัญชันทดแทน เพื่อลดการดื่มกาแฟลงไป ( ประหยัด ): ที่กล่าวมาไม่ใช่กาแฟไม่ดีนะ กาแฟจyดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง สรรพคุณก็อย่างที่รู้กันอยู่ อีกทั้งสมัยนี้กาแฟถูกปรับแต่งผสมผสานเข้ากับสมุนไพรอื่นอีกหลายตัว หอมน่ากินน่าดื่มมาก ให้ท่านเลือกตามชอบ

    ต้น อัญชัน

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Clitoria ternatea L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว สมุนไพรอัญชัน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า แดงชัน (เชียงใหม่), เอื้องชัน (ภาคเหนือ) กำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ปลูกทั่วไปในเขตร้อน ลักษณะของดอกอัญชันจะมีสีขาว สีฟ้า สีม่วง ส่วนตรงกลางดอกจะมีสีเหลืองอ่อนๆ นำดอกมาคั้นนำใช้หุงข้าวได้ด้วย ช่วยให้ข้าวที่หุงมีสีสันที่สวยงามน่ากิน หรือทำขนมสีม่วงดอกอัญชัน สรรพคุณ ดอกอัญชัน ดอกอัญชัน มีสาร “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซึ่งมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เช่น ไปเลี้ยงบริเวณเชลล์รากผม ซึ่งช่วยทำให้ผมดกดำ เงางาม เสริมเชลล์รอบๆดวงตา จึงช่วยบำรุงสายตา ปลายนิ้วมือ เหตุอาการเหน็บชา และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดอุดตัน

    สรรพคุณของอัญชัน โดยทั่วไป

    น้ำอัญชันมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เครื่องดื่มน้ำอัญชันช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
    ⋄ มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย
    ⋄ ชดอกชมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มการไหลเวียนเลือด
    ⋄ ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด
    ⋄ ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ
    ⋄ ช่วยบรรเทา รักษาอาการผมร่วง (ดอก)
    ⋄ อัญชันทาคิ้ว ทาหัว ใช้เป็นยาปลูกผม ปลูกขนช่วยให้ดกดำเงางามยิ่งขึ้น (น้ำคั้นจากดอก)
    ⋄ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
    ⋄ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
    ⋄ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
    ⋄ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
    ⋄ อัญชันมีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย
    ⋄ ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาฟาง ตาแฉะ (น้ำคั้นจากดอกสดและใบสด)
    ⋄ ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ต้อหิน ตาเสื่อมจากโรคเบาหวาน (ดอก)
    ⋄ ช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น
    ⋄ นำรากไปถูกับน้ำฝน นำมาใช้หยอดตาและหู (ราก)
    ⋄ นำมาถูฟันแก้อาการปวดฟันและทำให้ฟันแข็งแรง (ราก)
    ⋄ ใช้เป็นยาระบาย แต่อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ (เมล็ด)
    ใช้รากปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ (ราก,ใบ)
    ⋄ แก้อาการปัสสาวะพิการ ใช้แก้อาการฟกช้ำ (ดอก)
    ⋄ ช่วยป้องกันและแก้อาการเหน็บชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า
    ⋄ นำมาทำเป็นเครื่องดื่มน้ำอัญชันเพื่อใช้ดับกระหาย
    ⋄ ดอกอัญชันตากแห้งสามารถนำมาชงดื่มแทนน้ำชาได้เหมือนกัน
    ⋄ ดอกอัญชันนำมารับประทานเป็นผัก เช่น นำมาจิ้มน้ำพริกสด ๆ หรือนำมาชุบแป้งทอดก็ได้
    ⋄ น้ำดอกอัญชันนำมาใช้ทำเป็นสีผสมอาหารโดยให้สีม่วง เช่น ขนมดอกอัญชัน ข้าวดอกอัญชัน (ดอก)
    ⋄ ช่วยปลูกผมทำให้ผมดกดำขึ้น (ดอก)
    ⋄ ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่าง ครีมนวดผม ยาสระผม เป็นต้น
    ⋄ นิยมนำมาปลูกไว้ตามรั้วบ้านเพื่อความสวยงาม
    เมื่อมองเห็นประโยชน์มากมายขนานนี้ โทษมันมีไหม ตอบว่ามีครับ เนื่องด้วยดอกอัญชัน มีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด ท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเลือด อ่านตามนี้ครับ

    ข้อสังเกตการทดสอบสารในดอกอัญชัญ น้ำดอกอัญชันละลายในน้ำด่าง จะเปลี่ยเป็นสีเขียว / หากละลายในกรดจะเปลี่ยนเป็นแดง - หรือสีชมพูอ่อน / แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)- (MedThai) ( herbdailys )
    เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์ : Herbdee
    Tag : ดอกอัญชัน,น้ำดอกอัญชัน,ประวัติดอกอัญชัน,โทษของดอกอัญชัน,โทษของ ดอกอัญชัน ข้อควรระวัง,ดอกอัญชันแห้ง,ดอกอัญชันกินสดได้ไหม,ดอกอัญชัน ชื่อวิทยาศาสตร์,รูปดอกอัญชัน
    Rerated : Green Parata

    green parata

    กรีนภาระตะ

    ชื่อมันออกจะอินเดียอย่างชัด ผมได้ยินแฟนผมพูดบ่อยมาก เกือบปี เรื่องเล่ารวมถึงสรรพคุณ เจ้ากรีนภาระตะ จากที่เพื่อนของเขาคนหนึ่ง ป่วยด้วยโรคร้าย จึงแสวงหามาให้ จากเพื่อนอีกคนที่สุดหวงเจ้ากรีนภาระตะเนี่ย... ที่สุดก็ได้มาโดยความบังเอิญ จากเพื่อนรุ่นน้องในที่ทำงาน น้องเขาแนะนำให้ปักชำในที่ร่ม ชื้นแต่ไม่แชะ ที่สุดก็งอกงามก็เลยแจกเพื่อนๆ ที่เป็นโรค จากนั้นนำไปขยายพันธ์ ราว 10 กว่าต้น และให้เพื่อนๆ

    กรีนภาระตะ -เขียวอินเดีย

    ไม่เป็นแต่อยากปลูก จะใช้เป็นยาต้าน หรือรักษาเสริมร่วม กับสมุนไพรตัวอื่น ทุกวันนี้กลุ่มเพื่อนหลายคน ยังติดต่อมาขออีกเนื่องจากเรา ไม่ได้ขยายพันธ์ต่อเพิ่ม... กรีนภาระตะ -เขียวอินเดียเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ต้นสูง 1-1.5 เมตร แตกกิ่งเจริญเติบโตเร็ว ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน หรือรูปใบคล้ายใบสมุนไพรฮวานง็อก ถิ่นเดิมของเวียดนาม หรือพริกบางชนิด เพียงแต่ใบนุ่มกว่า ปลายและโคนใบแหลม สีเขียวสด มีหนามแหลมตามช่องใบเมื่อโเต็มที่ ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายยอด และที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายกลีบแหลม สีเหลืองสด ใจกลางดอกมีเกสรโผล่พ้นกลีบดอก ทำให้เวลามีดอกบานพร้อมกันดูสวยงามมาก ดอกออกได้เรื่อยเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำต้นและตอนกิ่ง

    วิธีใช้ กรีนภาระตะ:

    ใช้ใบสด เคี้ยวกิน หรือคั้นเป็นน้ำ 3-7 ใบ ก่อนอาหารหรือยากกินเมื่อไหร่ก็ได้ รสของใบกรีนภาระตะ มีรสขมนิดๆ เฝื่อนหน่อยๆ ถ้าเทียกับสมุนไพรฮวานง๊อก รสชาดดีกว่า เล็กน้อยด้วยที่มีขมนำ จึงนำมากินสดหรือเป็นเครื่องเคียงกับอาหารเช่น ลาบ หรืออาหารประจำถิ่นได้
    สรรพคุณ กรีนภาระตะ :
    คุณสมบัติ เป็นยาสมุนไพรช่วย .. หรือป้องกันมะเร็งร้าย มีสรรพคุณสามารถป้องกัน การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มะเร็งเต้านมในสุภาพสตรี ป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดัน ฯลฯ (ความเห็นผมนะ อย่าพึ่งตะนกกับงานที่ยังไม่ได้วิจัย แท้จริงกรีนภาระตะมันรักษา หรือต้านโรค หรือเพียงแค่บรรเทา หรืออีกนัยหนึ่งคือ อุปทาน ตามกระแส หากท่านมีโอกาสเลือกน้อยท่านก็แสวงหามาปลูกและบริโภคมันได้ หรือใช้ร่วมกับสมุนไพรตัวอื่นๆ ด้วยกรีนภาระตะ ค่อนข้างมีราคาแพงอยู่ )
    Barleria prionitis
    Barleria prionitis หรือที่เรียกว่า ดอกเม่น เป็นสายพันธุ์ของพืชในตระกูล ( Acanthaceae - พืชตระกูลนี้เป็นสมุนไพร มีสารที่เป็น องค์ประกอบทางเคมีที่ได้รับการวิจัยเป็นอย่างมาก มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการประยุกต์ใช้งานทางเภสัชกรรมรวมทั้งในยาแผนโบราณของอินเดียและจีน ฯลฯ) Barleria prionitis พืชพื้นเมืองอินเดีย ศรีลังกาและ แอฟริกากลางและแอฟริกาใต้ ( ดอกไม้เม่นพบในเขตร้อนแอฟริกาและเอเชีย ) ใช้เป็นยารักษาโรคอายุรเวท ทรัพยากรธรรมชาติ
    Barleria prionitis เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่โตเร็ว สำหรับพื้นที่ที่มีแสงแดด ดอกเม่นเป็นไม้พุ่มที่เต็มไปด้วยหนาม ซึ่งปกติจะเป็นลำต้นเดี่ยวมีความสูงประมาณ 1.5 เมตร หนามมีความยาวประมาณ 1.2 ซม. ใบมีขนาดไม่เกิน 5-9 x 2.5-4 ซม. รูปไข่ปลายแหลม.
    Barleria prionitis ได้มีการใช้เป็นเครื่องสำอางหลายอย่าง น้ำยาบ้วนปาก ที่ทำจากเนื้อเยื่อรากจะใช้เพื่อลดอาการปวดฟัน และรักษาเหงือกที่มีเลือดออก พืชใบและรากทั้งใบถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์แบบอินเดียที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่นใบจะใช้ในการส่งเสริมการรักษาบาดแผล และเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อ และอาการปวดฟัน เนื่องจากคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค สารสกัดจากพืช จะรวมอยู่ในเครื่องสำอางสมุนไพร และผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมเพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวและหนังศีรษะ

    มองหา ซื้อกรีนภาระตะ:

    คุณสมบัติ สรรพคุณทั่วไป

    กรีนภาระตะสรรพคุณ สามารถป้องกัน การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มะเร็งเต้านมในสุภาพสตรี ป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดัน .

    ใบแห้ง : ลักษณะจำเพาะ

  • ตากแห้งในที่ร่ม ห้องปรอดเชื้อ รักษาคุณค่าทางสรรพคุณ แห้งสนิท ความชื้นต่ำ
  • ใช้ชงในน้ำร้อนดื่ม.

  • บรรจุซอง

  • บรรจุขนาด 200 กรัม / ซอง .

  • ราคา

  • ราคาจำหน่าย *** บาท / ซอง ( มีจำหน่ายเร็วๆนี้ )
  • สั่งซื้อ คลิก ติดต่อเรา...

    Tag ; กรีนภาระตะ,วิธี กิน กรี นภา ร ตะ,เขียวอินเดีย,ต้นอังกาบ สรรพคุณ,ต้นอังกาบ มะเร็ง,green parata, สมุนไพร อินเดีย
    Rerated : กะเม็ง : มาค่า : หญ้าแพะ..เงี่...ยน : ตำรับยาแผนโบราณ

    Horny Goat Weed

    หญ้าแพะ..เงี่...ยน

    เป็นสมุนไพร ใบใช้ทำยา มีมากถึง 15 สายพันธุ์แพะมีเขาเป็นที่รู้จักกันเป็น "หยินหยาง huo" ในยาจีน วัชพืชแพะ เงี่..ยน ใช้สำหรับอาการปวดหลังและข้อเข่าอ่อนปวดข้อโรคข้อเข่าเสื่อมความอ่อนล้าทางจิตใจและร่างกายการสูญเสียความทรงจำความดันโลหิตสูงโรคหัวใจหลอดลมอักเสบโรคตับโรคเอดส์โรคโปลิโอโรคเลือดที่เรียกว่า leucopenia เรื้อรังไวรัส การติดเชื้อของหัวใจการสูญเสียกระดูกหลังวัยหมดประจำเดือน, กระดูกอ่อน (โรคกระดูกพรุน) และเป็นยาชูกำลัง

    สรรพคุณ ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศ

    ผู้ชายบางคนใช้วัชพืชแพะเงี่ยนสำหรับปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศรวมถึงปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (ED symptoms) และการหลั่งอสุจิ นอกจากนี้ยังใช้ในการกระตุ้นความต้องการทางเพศ

    วัชพืชแพะ เงี่..ยน

    มันทำงานอย่างไร?
    วัชพืชแพะเ..งี่ยนมีสารเคมีซึ่งอาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและปรับปรุงการทำงานทางเพศ นอกจากนี้ยังมี phytoestrogens สารเคมีที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งอาจลดการเสื่อมสภาพกระดูก ในสตรีวัยหมดประจำเดือน

    Eclipta prostrata

    สุมุนไพรกับโรค ที่เกี่ยวกับมือ

    ขนานที่หนี่ง
    ถ้าเกิดจากการทำนา หรือมือแช่อยู่ในน้ำนาน ทำให้มือเน่าเปลื่อย ใช้น้ำคั่นจากใบกะเม็งตัวเมียทาบ่อยๆ หรือวันละ 4-5 ครั้ง ใบกะเม็งตัวเมียยังป้องกันน้ำกัดได้โดยใช้น้ำคั้นจากใบทาบริเวณมือปล่อยให้แห้งทาก่อนหรือหลังทำนา
    ขนานที่สอง
    ถ้าเกิดจากการซักผ้า มากและนานๆ เกิดเป็นตุ่มใสและคัน ให้เอาใบเทียนดอกขยี้ทาวันละ 3-4 ครั้ง
    2. มือเป็นผื่นคันเวลาเก็ษเกี่ยวข้าว
    ขนานที่หนึ่ง
    ใช้ต้นกะเม็งตัวเมียสดๆทั้งต้นทั้งราก หนึ่งกำมือ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มให้เดือดนานประมาณครึ่งชั่วโมง ใช้น้ำต้มล้างมือ ( หรือจะใช้น้ำคั้นจากต้นกะเม็งทาก็ได้)
    ขนานที่สอง
    ใช้ใบตำลึงที่ขึ้นตามรั้วบ้านหรือตามต้นไม้ บดขยี้ทามือและแขนที่คัน
    3. มือร้อนจากพริก
    ขนานที่หนึ่ง
    เอานำ้จมในน้ำซาวข้าว สัก5-10 นาที
    ขนานที่สอง
    เอาเฉพาะเมือกสีขาว ของหว่านหางจรเข้ทามือบ่อยๆ หรือทาคลือบมือเรื่อยๆ

    กะเม็ง

    กะเม็ง เป็นพืชสมุนไพรของไทย ถูกนำมาใช้ในด้านการรักษาโรค จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก กะเม็งตัวเมีย คัดเม็ง บังกีเช้า หญ้าสับ ฮ่อมเกี่ยว
    ดอก ออกเป็นช่อกระจุก ตามซอกใบและตามปลายยอด กลีบดอกสีขาว ดอกย่อยรอบนอกเป็นดอกตัวเมีย ลักษณะเป็นแผ่นสีขาวปลายมน ดอก ผล เป็นชนิดอะคีน มีสีเหลืองปนดำ ปลายมีระยางค์เป็นเกล็ด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

    สรรพคุณ ของกะเม็ง

    กะเม็งมาใช้เป็นยา
    การเก็บกะเม็งมาใช้เป็นยานั้น จะเก็บมาใช้ทั้งต้นในขณะที่ต้นเจริญเต็มที่ กำลังออกดอก เมื่อเก็บมาแล้ว ควรล้างดินออกให้สะอาด หั่นเป็นท่อนหรือชิ้นเล็ก ๆ ตากหรือผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น เพื่อใช้เป็นยา ลักษณะของยาแห้งที่ดี ควรมีสีเขียว ไม่มีเชื้อรา และสิ่งอื่นเจือปนสำหรับสรรพคุณทางยาของกะเม็งนั้น มีหลายประการด้วยกัน กะเม็งมีรสเปรี้ยว ชุ่มเย็น ใช้เป็นยาห้ามเลือด บำรุงไต แก้บิด ถ่ายเป็นมูกเลือด แก้ลำไส้อักเสบ ตับอักเสบเรื้อรัง โรคผิวหนังผื่นคันจากการทำนา และรักษาผมหงอกก่อนวัยสารสกัดจากต้นแห้งที่สกัดด้วยไดคลอโรมีเทน บิวทานอล หรือเอทิลอะซีเตตมีฤทธิ์กำจัดอนุมูลอิสระ DPPH
    วิธีการใช้

    1. เป็นยาห้ามเลือด ใช้ต้นสดตำพอกหรือต้นแห้งบดเป็นผงโรยที่แผล
    2. แก้บิดถ่ายเป็นมูกเลือด ใช้ต้นแห้ง 30 กรัม หรือต้นสด 120 กรัมต้มน้ำกินติดต่อกัน 3-4 วัน
    3. แก้โรคผิวหนังผื่นคันจากการทำนา ใช้น้ำคั่นใบสดทาบริเวณมือและเท้า
    4. แก้ผมหงอกก่อนวัย ใช้น้ำคั่นจากต้นเคี่ยวกับน้ำมันงาหรือน้ำมันมะพร้าวทาศีรษะจะทำให้ผมดกดำ และแก้ผมหงอกก่อนวัย
    อ่านเพิ่มเติม... กะเม็ง

    Maca

    Maca - มาค่า

    ประโยชน์ต่อสุขภาพของหัว Maca รวมถึงการบรรเทาจากปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือน และวัยหมดประจำเดือน ในขณะที่ยังช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมน และการส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ในสตรี ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ปรับปรุงสุขภาพทางเพศ และส่งเสริมสุขภาพกระดูก นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างความอดทน รักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และปรับปรุงสุขภาพผิว มะต่ามันมีคุณสมบัติต้านการซึมเศร้า และภายใต้เงื่อนไขที่เครียด ช่วยส่งเสริม homeostasis (ความสมดุลภายในร่างกาย)

    Maca - มะค่า คืออะไร?

    Maca เป็นพืชที่มีความเกี่ยวข้องกับ หัวไชเท้า และมีส่วนประกอบของ วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็น และถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงโรคโลหิตจาง
    มีถิ่นกำเนิด ในพื้นที่ภูเขาสูงของเทือกเขาแอนดีของเปรู โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เคียงกับทะเลสาบ Junin แต่ยังปลูกในประเทศโบลิเวีย และบางแห่งในบราซิล มีการปลูกแบบอินทรีย์ และโดยใช้สารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ย ที่ไม่เป็นธรรมชาติมากนัก เนื่องจากพืชไม่ได้ถูกโจมตีโดยนักล่าแมลงหรือโรค ไม่ชัดเจนว่าประโยชน์ต่อสุขภาพของมะละกอจะเหมือนกัน หรือไม่เมื่อปลูกหรือเพาะปลูกนอกแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ดังนั้นปริมาณการจัดหาส่วนใหญ่ของโลกมาจากอเมริกาใต้
    ส่วนหัวของแมคคานั้น เกิดขึ้นจาก hypocotyl และ taproot ทำให้มันเป็นรูปลูกแพร์ที่ ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีหลายสายพันธุ์ที่คั่นด้วยสีของราก หัว : ครีม, ทอง, แดง, ดำ, ม่วง, ฟ้าหรือเขียว รูปแบบเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกตามความต้องการด้านยาของผู้ใช้

    คุณค่าทางโภชนาการของ Maca

    ส่วนที่เป็นประโยชน์มากที่สุดของพืช maca คือ hypocotyl เนื้อที่จำแนกเป็น " ส่วนหัว " ส่วนประกอบอินทรีย์ของแมกกาซีน เป็นสิ่งที่ทำให้สระสมคุณค่าและเป็นประโยชน์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก
    โดยการเพิ่มมาก้าในอาหารของคุณ คุณสามารถปรับปริมาณวิตามิน และแร่ธาตุของคุณให้สมดุล เนื่องจากเป็นแหล่งวิตามิน B12 ที่ดีพร้อมกับ B1 B2 C และ E. ยังเป็นแหล่งรวมโปรตีนที่อุดม ไปด้วยคุณลักษณะที่เป็นประโยชน์ สำหรับมังสวิรัติ และชอบมังสวิรัติที่มีส่วนประกอบสำคัญของ ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี และ แมกนีเซียม ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตประมาณ 60-75% และ โปรตีน 10-14% พร้อมด้วย เส้นใย และไขมันเพียงเล็กน้อย เนื้อหาโปรตีนและสารอาหารที่มีความสำคัญสูง อาจอธิบายการเชื่อมโยงกับพลังงานที่สูงขึ้น การเพิ่มความใคร่ทางเพศและผลประโยชน์อื่น ๆ
    ประโยชน์ต่อสุขภาพของ Maca

    แม้ว่าผลกระทบที่แท้จริงของ maca โครยังไม่ได้รับการค้นพบอย่างเต็มที่ แต่ก็มีประโยชน์ด้านสุขภาพบางอย่างที่ได้รับการยอมรับจากการรวม Maca ในอาหารของบุคคล
    ลดความเกลียดตัวเอง การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
    อาจเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับ ผลประโยชน์ ของตนเพื่อความใคร่ทางเพศของบุคคล ความแข็งแรงทางเพศและไดรฟ์เพิ่มขึ้นทั้งในชายและหญิงซึ่งทำให้บางคนเริ่มเรียกหา "Nature's Viagra" ของ Maca ความใคร่ทางเพศได้รับการควบคุมบางส่วนโดยระดับ serotonin ในร่างกายและโดยการทำงานกับปัจจัยทางเคมีที่ยับยั้งความผิดปกติทางเพศก็สามารถปรับปรุงระดับพลังงานและความตื่นเต้นตามธรรมชาติสำหรับกิจกรรมทางเพศ
    ปรับปรุงเพิ่มจำนวนอสุจิ
    การบริโภคมะคา ได้รับการเชื่อมโยงกับการเพิ่มจำนวนตัวอสุจิของผู้ชาย ซึ่งจะนำไปสู่ความพยายามในการสืบพันธุ์ ที่ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นเนื่องจากการเพิ่มจำนวนอสุจิ มักจะสะท้อนให้เห็นถึงอัตราที่สูงขึ้นในการชักชวนในคู่ค้า จำนวนอสุจิที่สูงขึ้น มักเพิ่มความเชื่อมั่นทางเพศในผู้ชาย การปรับปรุงสภาพในชีวิตส่วนตัวของพวกเขา
    การเคลื่อนที่ของอสุจิ
    สำหรับสตรีที่กิน maca การศึกษา ได้แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการทำซ้ำยังเพิ่มขึ้น ไม่เพียง แต่มาลาเป็นวิธีที่ดีในการส่งเสริมการนับตัวอสุจิของชายและความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังช่วยให้ทั้งคู่มีโอกาสที่ดีในการตั้งครรภ์ที่มีศักยภาพ
    สุขภาพกระดูก
    การเพิ่มมาดากัสการ์ในอาหารของคุณยัง ช่วยเพิ่ม [9] ความหนาแน่นและความแข็งแรงของ กระดูก ในขณะที่ป้องกัน โรคกระดูกพรุน เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งเป็นวิตามินสำคัญในการส่งเสริมกระดูกที่แข็งแรงและทนทาน
    สรรพคุณยา
    ช่วยกล่อมประสาท ทำหน้าที่เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชัน ในฐานะตัวยับยั้งการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มันแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงอารมณ์และระดับพลังงานและต่อต้านอาการทั่วไปที่มาจากการ antidepressants คือลดลงในการทำงานทางเพศและความใคร่
    homeostasis
    มันไม่มากกว่าการปรับปรุงจำนวนอสุจิของคุณก็ยังเพิ่ม การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ ! การเคลื่อนไหวคือเสรีภาพในการเคลื่อนไหวและอัตราส่วนของกิจกรรมกับการใช้พลังงาน โดยการเพิ่มเข้าไปในอาหารของคุณคุณสามารถเพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิได้ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการพยายามหาคู่ครองของคุณ
    ภาวะเจริญพันธุ์
    าคาเป็นแหล่งของลคาลอยด์ที่เป็นเอกลักษณ์และฝูงสารอาหารวิตามินในปริมาณสูงกว่าที่พบใน อาหาร หลาย ชนิด การรวมกันของคุณลักษณะทางชีววิทยานี้ให้ "คุณสมบัติ adaptogenic" ซึ่งหมายความว่ามันสามารถตอบสนองเชิงบวกกับ ความเครียด ในสิ่งมีชีวิตและส่งเสริม homeostasis หรือสมดุลภายในร่างกายโดยไม่ต้องเพิ่มสารเคมีที่เป็นพิษหรือเทียม
    เสริมพลังงาน และความอดทน
    มาคามีมานานแล้วโดยชาวเปรูชาวเปรูใช้ เพื่อเพิ่ม พลังงานและความอดทนในระหว่างงานใด ๆ นี้มาจากโปรตีนในระดับสูงของวิตามินและ แร่ธาตุ ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลสามารถให้ความช่วยเหลือด้านพลังงานและความอดทนเหล่านี้แก่ทุกคนที่ต้องการเพิ่มมาคาในสูตรอาหารประจำวัน
    เพิ่มภูมิคุ้มกัน
    การเพิ่มลงในอาหารประจำวันแม้เพียงช้อนโต๊ะวันเท่านั้นสามารถ เพิ่ม ความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของคุณได้เป็นอย่างมาก หนึ่งในด้านที่สำคัญที่สุดของมะม่วงคือระดับโปรตีนสูง มีโปรตีนเกือบห้าครั้งต่อหนึ่งหน่วยบริโภคมากกว่า มันฝรั่ง และโปรตีนเป็นส่วนสำคัญของอาหารที่สมดุล มันสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณซ่อมแซมเนื้อเยื่อและระดับพลังงานของคุณ

    ตำรับยาโบราณ

    ตำรับยาแผนโบราณ

    ผู้เป็นหมอจะต้องรู้จักตัวยา 4 ประการ ซึ่งโบราณาจารย์ได้ใช้เป็นหล็กใการพิจารณา เพื่อให้รู้จักตัวยาต่างๆ ได้ถูกต้อง การรู้จักตัวยา 4 ประการนี้เป็นวิธการดูและจำแนกตัวยา ว่าตัวยาชนิดนั้นๆเป็นเครื่องยาชนิดเดียวกันกับที่แสดงไว้ในตำรับยา หรือตรงตามตัวยาที่ต้องการหรือไม่ โดยพิจารณาตามหลัก 4 ประการนี้
  • 1. รู้จักรูปลักษณะ ว่าตัวยานั้นๆ มีรูปลักษณะ เช่น ในพืชวัตถุ รู้ว่าเป็น ต้น ใบ ดอก แก่น กระพี้ ฝัก เนื้อ ผลยาง ฯลฯ
    ในสัตว์วัตถุ รู้ว่าเป็น หัว หนัง นอ ดี กราม กรวด กระดูก เลือด ฟัน ฯลฯ
    ในธาตุวัตถุ รู้ว่าเป็น บัลลังก์ศิลา เกลือสมุทร กำมะถันแดง ทองคำ ฯลฯ
  • 2. รู้จักสี รู้ว่าตัวยานั้นมีสีเป็นอย่างไร เช่น แก่นฝางเสน มีสีส้ม ผักแพวแดงมีสีแดง กระดองปลาหมึกมีสีขาว งาช้าง มีสีขาว จุนสี มีสีน้ำเงิน
  • 3. รู้จักรส รู้ว่าตัวยานั้นๆ มีรสเป็นอย่างไร เช่นอย่างที่โบราณาจารย์นำมาจัไว้เป็นหมวดหมู่
  • 4. เภสัชกรรม ต้องรู้จักการปรุงยา ตามวิธีกรรมแผนโบราณ ตลอดจนรู้จักมาตราชั่งตวง ของไทยและสากล
  • ยาหอม

    ตำรับยาโบราณไทยแท้ บรรเทาโรคหัวใจ ถึงชิ้นชีวิตได้ การที่จะระงับอาการที่เกิดจากลม เช่น หทัยวาตะ นี้ยารสสุขม คือยารสไม่ร้อนและไม่เย็นเกินไป รสออกกลางๆ ประมาณนี้ มีกลิ่นหอม ตำรับที่เข้าด้วยสมุนไพรจำพวกดอกไม้ต่างๆ และเครื่องเทศที่มีคุณสรรพคุณที่ไม่ร้อน เช่น อบเชย หรือยาที่เข้าโกฐเทียน ต่างๆ กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชลูด พิมเสน เปลือกส้มๆ เป็นต้น
    สมุนไพรเหล่านี้ เมื่อรวมเข้าเป็นตำรับแล้ว เรียกว่ายาหอม ในคำภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ กล่าวถึงยาหอมที่มีชือเสียงเก่าแก่ไว้หลายสิบตำรับ ซึ่งแล้วแต่มีชื่อเสียงไพเราะเพาะพริ้ง ได้แก่...
    * ยาหอมจิตรารรมณ์ * ยาหอมพรมอุทิศ * ยาหอมกล่อมอารมณ์ * ยาหอมประทุมผล ซึ่งแก้ลมครีโทษอันบังเกิดในหทัยวัตถุ ( หัวใจ )
    คือ แก้หัวใจวายนั้นเอง นอกนั้นก็มียาหอมที่ช่วยบำรุงหัวใจ แก้อาการฟุ้งช่าน กระสับกระส่ายนอนไม่หลับแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลายคล้ายหรือเป็นลม เช่น
  • ยาหอมเทพจิต
  • ยาหอมทิพโอสถ
  • ยาหอมอินทจักร์
  • ยาหอมนวโกฐ
  • ยาหอมเบญจโกฐ
  • ยาหอมนารายณ์รักษา
  • ยาหอมอาลัย
  • ยาหอมชูชีพ
  • ยาหอมแท่งทอง
  • ยาหอมชื่นอารมณ์
  • ยาหอมอารมณ์สำราญ
  • ยาหอมเทพบรรทม
  • ยาหอมเรณู
  • ยาหอมครอบจักรวาล
  • เป็นต้น
    ยาหอมแต่ละตำรับ เข้าตัวยานับสิบชนิด บางชนิดอาจเป็นยารสเผ็ดร้อนก็ได้ เข้าด้วย ขิง ข่า ดีปลี พริกไทย แต่เมื่อเข้าเป็นตำรับแล้ว จะประด้วยตัวยาที่มีรสสุขุมมากกว่า และเป็นตำรับยาที่มีกลิ่นหอมเย็นใจ.